สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติและสถาบันอุดมศึกษาพี่เลี้ยง เดินหน้าขยายโครงการจัดตั้งโรงเรียนเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ เพื่อจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษา ระดับ ปวช. รูปแบบพิเศษ เพิ่มอีก 4 แห่ง หลังจากนำร่องทดลองจัดการเรียนการสอนสาขาช่างอุตสาหกรรมฐานวิทยาศาสตร์ ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ (ชลบุรี) มาตั้งแต่ปีการศึกษา 2551 จำนวน 2 รุ่น
ดร.พรหมสวัสดิ์ ทิพย์คงคา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า เนื่องจากการยกระดับขีดความสามารถในการประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยี และสร้างนวัตกรรมให้กับภาคการผลิตและบริการ ภายใต้แผนกลยุทธ์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (พ.ศ.2547 – 2556) กำหนดเป้าหมายที่จะสร้างและพัฒนากำลังคน ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหรือนักเทคโนโลยีที่มีคุณภาพให้กับประเทศอย่าง เร่งด่วนนั้น สอศ.ได้รับงบประมาณภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระยะที่ 2 (พ.ศ.2553 – 2555) สนับสนุนการขยายผลโครงการจัดตั้งโรงเรียนเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ไปยังสถาน ศึกษาในสังกัดเพิ่มอีก 4 แห่ง ใน 4 สาขาวิชา ได้แก่
-สาขาเครื่องจักรอุตสาหกรรมอัตโนมัติ ในวิทยาลัยเทคนิคสุรนารี
-สาขาธุรกิจท่องเที่ยว ในวิทยาลัยเทคนิคพังงา
-สาขาเทคโนโลยีอาหาร ในวิทยาลัยอาชีวศึกษาสิงห์บุรีและ
-สาขาเทคโนโลยีชีวภาพการเกษตร ในวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน
โดยประกาศรับสมัครนักเรียนในปีการศึกษา 2553 นี้ สถานศึกษาละ 30 คน เปิดรับนักเรียนที่จบชั้น ม.3 หรือกำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.3 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนคะแนนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.00 สนใจด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ หากมีผลงานคิดค้นสร้างสิ่งประดิษฐ์หรือโครงการวิทยาศาสตร์จะได้รับการ พิจารณาเป็นพิเศษ
โดยนักเรียนที่สนใจขอรับใบสมัครได้ที่วิทยาลัยดังกล่าวโดยตรง หรือโหลดแบบฟอร์มใบสมัครได้ที่เว็ปไซด์ของวิทยาลัย กำหนดยื่นใบสมัครพร้อมหลักฐานผลการเรียนและหนังสือรับรองผลงานด้านวิทยา ศาสตร์หรือเทคโนโลยี (ถ้ามี) ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวเพิ่มเติมว่า ระบบการเรียนการสอนจะมีรูปแบบพิเศษที่กระตุ้นให้นักเรียนได้ค้นคว้าหาความ รู้ และฝึกทักษะโดยการสร้างโครงงาน (Project – based Learning) มีการจัดเป็นห้องเรียนรูปแบบเฉพาะ แยกจากห้องเรียนปกติของสถานศึกษา ผู้สอนส่วนใหญ่จะเป็นอาจารย์พิเศษจากสถาบันอุดมศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญ เฉพาะสาขาและสถาบันการวิจัยที่เป็นภาคีเครือข่าย
นอกจากนั้นนักเรียนจะต้องเข้ารับการฝึกปฏิบัติจริงใน สถานประกอบการ ภายใต้ระบบโรงเรียนในโรงงาน นักเรียนชั้นปีที่ 1 จะต้องอยู่ประจำในหอพักที่โรงเรียนจัดให้ ซึ่งจะมีครูพี่เลี้ยงดูแลการทำกิจกรรมเสริมนอกเวลาเรียน เพื่อบ่มเพาะและพัฒนาศักยภาพของนักเรียนอย่างเต็มที่และเข้มข้น นักเรียนในโครงการยังจะได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากค่าใช้จ่าย ที่ได้รับตามโครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพของรัฐบาลตลอด 3 ปีจนจบการศึกษา อาทิ ค่าห้องสมุด วัสดุโครงการ สื่อการเรียนการสอน อุปกรณ์ไอที ค่าอาหาร 3 มื้อ เมื่อนักเรียนจบระดับ ปวช. จากโครงการนี้แล้วจะได้รับการสนับสนุนให้เข้ารับการศึกษาต่อในระดับ ปวส. และปริญญาตรีสายเทคโนโลยีในสถาบันการอาชีวศึกษาหรือระดับบัณฑิตศึกษาใน สถาบันอุดมศึกษาที่เป็นเครือข่ายต่อไป
วันที่: 25 มีนาคม 2553
แหล่งที่มา:นิตยสารการศึกษาอัพเกรด ฉบับ 143
|